เขาใจหมาหรือผมใจมด
ศัพย์แสลง
คำว่า "ใจหมา ใจมด" มันคือศัพย์แสลงคำหนึ่ง คำว่าศัพย์แสลงนักวิชาการหรือคุณครูภาษาไทยได้ยินเข้ารับประกันได้ว่าเป็นเรื่องแน่ๆ ทุกวันนี้เขาร่วมกันรณรงค์เรื่องภาษาของชาติกลัวจะวิบัติไปหมดซะก่อนหลายท่านว่าไว้อย่างงั้น ผมเคยถามกูรูหลายท่านว่าถ้าผมตั้งชื่อบล็อกที่ผมจะเขียนสะท้อนสังคมความขัดแย้ง เรื่อง''เขาใจหมา-หรือว่าผมใจมด'' แล้วให้กูรูลองวิเคราะห์ว่าอ่านชื่อเรื่องแล้วรู้สึกอยางไรกับบทความตามความเข้าใจของท่านกูรู กูรูหลายท่านสวดผมยับ ว่าไม่ควรเอาหมากับมดมาเกี่ยวเพราะเขาเป็นสัตว์ ที่เป็นเพื่อนกับมนุษย์ไม่ควรเอาเขามาดูหมิ่นหรือเปรียบเทียบกับใคร บ้างก็ว่าผมต้องเขียนเรื่องเข้าข้างตัวเองให้คู่ต่อสู้ในบทความของผมใจหมาเสมอ บางท่านเข้าใจความหมายคำว่าใจหมาใจมดเป็นอย่างดีอธิบายได้เป็นฉากๆ ท่านหนึ่งบอกว่าผมเปรียบเทียบยังไม่ดีหมาตัวใหญ่กว่ามดจะเอามาเปรียบเทียบกันได้อย่างไร. อย่างงี้ก็มีด้วยครับ
แต่ที่ชนะการโหวตโดนใจอันดับที่1 ท่านให้แง่คิดผมว่าแค่ท่านอ่านชื่อเรื่องท่านก็ไม่อยากอ่านต่อแล้ว เขาอธิบายเพิ่มว่า ศักดิ์ศรีการเปรียบเทียบมันยังต่างกันเกินไป เขายกตัวอย่างชื่อเรื่องให้ผมว่า ''หญิงร้าย ชายโฉด'' อะไรประมาณนี้ถึงจะสมน้ำสมเนื้อกัน ผมต้องขอขอบคุณ กูรู ทุกท่านที่ให้แง่คิดกับผม แต่ที่ผมเป็นห่วงที่กังวลที่สุด คือท่านกูรู นักอนุรักษ์สัตว์ ขอทำความเข้าใจน๊ะครับผมไม่ได้มีเจตนาที่จะดูหมิ่นเพื่อนสุนัขร่วมโลกของท่านแต่ประการใดครับ บ้านผมเลี้ยงสุนัข ไม่ใช่สิบ้านผมเรียกว่าเลี้ยงหมา ผมเลี้ยงหมา 5 ตัว แมวเปอร์เซีย 4 ตัว นก1ตัว ผมก็เป็นคนรักสัตว์ครับ หมาของผมดมกลิ่นเป็น สวัสดีได้ เชื่อฟังคำสั่งตลอดเวลาดื้อซนบ้างบางครั้ง ผมไม่เคยตีมันเลยจริงๆน่ะครับ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นผู้คิดศัพย์แสลงคำนี้ขึ้นมาผมเพียงแค่เคยได้ยิน ได้ใช้คำเหล่านี้เลยเห็นว่าเนื่อหาของชื่อมันดีเท่านั้นเอง นี่ดีน๊ะครับที่ผมเป็นคนใจปรกติแต่ถ้าผมเป็นคนใจมดผมคงรับไม่ได้กับคำวิจารย์ที่กูรูร่วมวิเคราะห์และวิจารย์ ต่อว่าผมอย่างออกรสออกชาติ แต่ผมเชื่อว่าทุกท่านจริงใจ! ที่จะช่วยผมแก้ไขและให้แนวทางผมเสมอใช่ไหมครับ ขอบคุณมากครับ
แต่ในความหมายชื่อเรื่อง ''เขาใจหมา หรือว่าผมใจมด'' ที่ผมจะเขียนคือ
คนสองคนที่เกิดความขัดแย้งกัน ทะเลอะกัน แล้วหาข้อสรุปไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างโทษว่าคนอื่นผิด ตัวเองไม่ผิด แล้วใครกันล่ะที่เป็นคนผิดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หรือว่าผิดทั้งคู่ผมเลยสรุปตั้งชื่อเรื่องไปเลยว่า
''เขาใจหมา หรือว่าผมใจมด''
ใจหมา คือ ผายลมใส่หน้าเพื่อนก็ใจหมาแล้ว
ใจมด คือ ไอ้ขีปอด ขี้ขาด ขี้ใจน้อย พวกเห็นแก่ตัว
หลังจากที่อ่านบทความแล้วผมก็มีเจตนาที่จะให้ผู้อ่าน ตัดสินกรือวิเคราะห์ในแบบของผู้อ่านเองผมเชื่อว่ามันจะสร้างอุทาหรกับผู้อ่านได้แน่ๆ และถ้าผลดีที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อสังคมวงกว้าง ก็เป็นที่น่ายินดีเข้าไปใหญ่
วันนี้เพื่อไม่ให้มีศัพย์แสลงเต็มบ้านเต็มเมือง ผมเลยขอนำบทความของท่าน รศ. ดร.กุญชรี ค้าขาย
ซึ่งผมอ่านแล้วตรงประเด็นมากๆ มาเริ่มบทความกันเลยดีกว่าครับ
การบริหารความขัดแย้ง
Read more: http://www.novabizz.com/NovaAce/Relationship/Conflict_Management.htm#ixzz2Vh3PRW00
Read more: http://www.novabizz.com/NovaAce/Relationship/Conflict_Management.htm#ixzz2Vh3PRW00
ความหมายและประเภท
ความขัดแย้ง (conflict) หมายถึง เหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นเมื่อ เมื่อบุคคลหรือทีมมีความเห็นไม่สอดคล้องกัน ความขัดแย้งถือเป็นเหตุการณ์ธรรมดาที่เกิดขึ้นในการอยู่ร่วมกันหรือทำงานร่วมกัน คนโดยทั่วไปมักนึกถึงความขัดแย้งในเชิงทำลาย แต่เป็นที่ยอมรับกันว่าหากความขัดแย้งเกิดขึ้นในปริมาณที่พอเหมาะ ความขัดแย้งนั้นจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์
สาเหตุของการเกิดความขัดแย้ง
สุดท้ายบทความนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านจะเข้าใจความหมายของบทความที่ผมเขียนขึ้นมาบ้าง และหวังว่าบทความของอาจารย์จะทำให้ศัพย์แสลงน่ารังเกียจ ที่เป็นชื่อบล็อกของผม คงลดน้อยลงจากสังคมไทยแน่นอน
ก้องกิดากร
9/6/56
-->
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !