คดีข่มขืน ข่มขืน กับ อนาจารย์ หรือลวนลาม ในความคิดของผมความหมายมันช่างแตกต่างกันสะเหลือเกิน มีบทความอยู่บทความหนึ่งเป็นการสัมภาษณ์นักโทษคดีข่มขืน ผมมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็น ปัญหาสังคม ที่มีความรุนแรง และ ทำร้ายจิตใจผู้ถูกกระทำซะเหลือเกิน ว่าด้วยเรื่องของ คำว่านักโทษข่มขืน ภาพที่ทุกคนจินตนาการใบหน้าและบุคลิกลักษณะของผู้ต้องหาข่มขืนคงไม่แตกต่างกันมาก จุดประสงค์และผลลัพท์ที่ต้องการคือสัมเร็จความใคร่ให้ตัวเอง บางรายอำมหิตหน่อย หรือเรียกอีกคำตามภาษาแสลงของบล็อกนี้เขาเรียกว่า คนใจหมา เพราะถ้าไม่ข่มขืนอย่างเดียวแทบครึ่งนึงของคดีความมีการทำร้ายร่างกายหรือ ฆาตกรรมก็มี แล้วในส่วนของ การมีเพศสัมพันธ์ แบบไม่สมยอมล่ะ ทำไมไม่เรียกว่าข่มขืน ส่วนมากจะใช้คำว่า ลวนลาม ละเมิดทางเพศ อืมมันก็น่าแปลกดี สำหรับวันนี้ผมมีบทความที่คัดลอกมา เพื่อมาเตือนภัย และศึกษาวิธีการของนักโทษคดีข่มขืน ย้ำน่ะครับข่มขืน ไม่ใช่การละเมิดทางเพศ ผมไม่แน่ใจคำว่าวิธีการทั้งสองอย่างมันต่างกันตรงไหน ใครดีกว่าใคร หรือใครคนดีคนเลว เริ่มอ่านบทความไปพร้อมๆกันครับ บทสัมภาษณ์ นักโทษข่มขืน
ไม่รู้ว่าเคยได้อ่านกันหรือยัง เลย copy มาให้อ่าน จะได้เป็นประโยชน์
แก่ผู้หญิงทุกๆคน ได้มีการสัมภาษณ์นักโทษข่มขืนในคุกว่า เค้าดูเหยื่อจากอะไรและนี่คือคำสัมภาษณ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง อย่างแรกที่เค้าดู คือ ทรงผม เค้ามักจะตามผู้หญิงที่มีผมหางม้า ผมมวย ผมเปีย หรือ ผมทรงไหนก็ได้ที่สามารถดึงหรือกระชากได้ง่าย ๆ เค้ามักจะตาม ผู้หญิงที่มีผมยาว แต่หญิงผมสั้นมักจะไม่ค่อยเป็นเป้าหมาย อันดับสองที่เค้าดูคือ เสื้อผ้า เค้ามักจะหา ผู้หญิงที่สวมใส่เสื้อผ้าที่ถอดออกง่าย ๆ แต่ว่าเสื้อผ้าที่เค้ามองหาก็เป็นเสื้อผ้าแทบทุกแบบน่ะแหล่ะ เพราะว่าเค้ามีกรรไกรและเครื่องมือที่สามารถตัดเสื้อผ้าออกได้ง่าย เค้าจะมองหาผู้หญิงที่กำลังใช้โทรศัพท์มือถือ หรือกำลังทำกิจกรรมอื่นๆขณะเดิน เพราะว่าผู้หญิงเหล่านั้นจะไม่ทันระวังตัวและพวกเค้าสามารถเข้าไปใช้กำลังได้ง่ายๆ เวลาที่เหมาะสมในการเข้าไปทำร้ายและข่มขืน คือ ในตอนช่วงเช้าประมาณตี 5 ถึง 8.30 น. ส่วนสถานที่ที่ผู้หญิงจะถูกทำร้ายได้ง่ายอันดับแรกคือ ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า อันดับสองคือลานจอดรถหรือโรงรถของบริษัท อันดับสาม คือ ห้องน้ำสาธารณะ สิ่งที่คนเหล่านี้จะทำคือ เข้าไปกระชากผู้หญิงคนนั้น และใช้กำลังดึงเธอไปยังอีกที่หนึ่งที่พวกเค้าจะ ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะถูกจับได้ ประมาณ 2 เปอร์เซนต์บอกว่าพวกเค้าใช้อาวุธด้วย เพราะการข่มขืนมีโทษจำคุก 3 - 5 ปี แต่การข่มขืนและมีอาวุธมีโทษจำคุก 15 - 20 ปี และถ้าผู้หญิงคนนั้นต่อสู้ เค้าก็จะเกิดการไม่พอใจ เพราะว่ามันจะต้องใช้เวลามากขึ้น และมันเป็นการเสียเวลา นักโทษคนหนึ่งกล่าวว่า เค้าจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่ถือร่ม หรือ สิ่งอะไรก็ตามที่สามารถต่อสู้ได้จากที่ห่างๆ กุญแจไม่เป็นอุปสรรคเพราะในการที่คุณจะใช้นั้น จะต้อง เข้าไปใกล้ๆ ดังนั้นการใช้กุญแจในการป้องกันตัว จึงเป็นเรื่องง่าย สำหรับคนเหล่านี้ มีการป้องกันตัวหลายแบบที่พวกเค้าแนะนำคือ ถ้ามีใครซักคนเดินตามหลังคุณบนถนนหรือที่โรงจอดรถ หรือในลิฟต์ให้มองหน้าเค้า และถามคำถามอะไรก็ได้ เช่น ตอนนี้กี่โมงแล้ว หรือสร้าง สนทนาสั้นๆ อะไรก็ได้ และตอนนั้นคุณจะสามารถเห็นสีหน้าพวกเค้าและสามารถ ที่จะเห็นปฏิกิริยาทั้งหมด และคุณก็จะรอดพ้นจากการเป็นเป้าหมาย ถ้ามีคนมาข้างหน้าคุณเอามือของคุณมาไว้ข้างหน้าและ ตะโกนอะไรก็ได้ คนเหล่านั้น จะปล่อยเป้าหมายไว้คนเดียวทันทีถ้าเหยื่อตะโกนหรือแสดงกิริยาว่าพวกเธอไม่กลัว ที่จะต่อสู้และพวกเขาก็จะมองหาเป้าหมายใหม่ที่ง่ายกว่าเดิม แต่ถ้าคุณมีสเปรย์พริกไทย ตะโกนออกไปว่า “ชั้นมีสเปรย์พริกไทย”และโชว์ให้มันดู ถ้ามีใครกระชากคุณ คุณจะไม่สามารถใช้กำลังในการต่อสู้ได้เลยแต่คุณ สามารถเอาชนะมันได้ด้วยปัญญา ถ้าเค้ากระชากข้อมือของคุณ กลับมือของคุณก็จะเปลี่ยนทิศทาง บิดข้อมือคุณคือและดึงแขนคุณออกไป มันยากที่จะจับข้อมือที่บิดอยู่ ให้ไปในทางนั้นและคนที่ปองร้ายคุณก็จะเสียหลัก และคุณก็จะเสียหลักถอยหลังออกมา และคุณก็สามารถใช้แรงผลักนั้น เขกมะเหงกไปที่หน้าผาก หรือจมูก หรือฟันของคนร้ายได้ แต่ถ้าคุณถูกกระชากข้อมือจากข้างหลัง ให้หยิกคนร้าย ตรงใต้แขนระหว่างรักแร้และข้อศอก หรือตรงบริเวณเนื้อส่วนใน มีผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวว่า เธอได้ลองใช้วิธีนี้กับผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการจะข่มขืนเธอ เธอหยิกจนเนื้อฉีกและจนถึงบริเวณกล้ามเนื้อของชายคนนั้น และชายคนนั้นเลยต้องไปหาหมอเย็บแผล หลังจากการหยิกหรือตีแล้ว เป้าหมายต่อไปคือ ต้นขา (ไข่) มันเป็นสิ่งที่แน่นอนว่า ถ้าคุณไปตบบริเวณนั้นของผู้ชาย จะสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก คุณอาจจะติดว่าถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณจะทำให้เค้าโกรธขึ้นมาและทำร้ายคุณมากกว่าเดิม แต่นักโทษให้สัมภาษณ์ว่าพวกเค้าต้องการผู้หญิงที่ไม่ก่อปัญหามากมายเริ่มสร้างปัญหาซะ และพวกเค้าก็จะไปจากคุณ แต่ถ้าเมื่อชายคนนั้นวางมือบนคุณ ให้กระชากนิ้วเค้า 2 นิ้ว และหักไปในทางตรงข้ามให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และมันจะสร้าง ความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ผู้สอนได้ลองทำกับชั้นโดยไม่ได้ทำให้ เจ็บมากและชั้นก็ถึงกับเข่าอ่อนและทุบบอกให้หยุด แต่สิ่งเหล่านี้ต้องมีการนำไปใช้อย่างเหมาะสม ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้วย พาใครซักคนไปกับคนถ้าเป็นไปได้ ถ้าเห็นใครบางคนมีพฤติกรรมแปลก ๆ ให้ระวังตัว มีสติให้มั่น คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณเหมือนคนโง่ในช่วงนั้นแต่คุณจะยิ่ง แย่กว่านั้นถ้าชายคนนั้นเป็นปัญหาจริง ๆ กรุณาส่งข้อความนี้ไปให้ผู้หญิงทุกคนที่คุณรู้จัก มันจะได้เป็นการช่วยเหลือเธอได้ บทสัมภาษณ์ นักโทษข่มขืน
ไม่รู้ว่าเคยได้อ่านกันหรือยัง เลย copy มาให้อ่าน จะได้เป็นประโยชน์
แก่ผู้หญิงทุกๆคน ได้มีการสัมภาษณ์นักโทษข่มขืนในคุกว่า เค้าดูเหยื่อจากอะไรและนี่คือคำสัมภาษณ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง อย่างแรกที่เค้าดู คือ ทรงผม เค้ามักจะตามผู้หญิงที่มีผมหางม้า ผมมวย ผมเปีย หรือ ผมทรงไหนก็ได้ที่สามารถดึงหรือกระชากได้ง่าย ๆ เค้ามักจะตาม ผู้หญิงที่มีผมยาว แต่หญิงผมสั้นมักจะไม่ค่อยเป็นเป้าหมาย อันดับสองที่เค้าดูคือ เสื้อผ้า เค้ามักจะหา ผู้หญิงที่สวมใส่เสื้อผ้าที่ถอดออกง่าย ๆ แต่ว่าเสื้อผ้าที่เค้ามองหาก็เป็นเสื้อผ้าแทบทุกแบบน่ะแหล่ะ เพราะว่าเค้ามีกรรไกรและเครื่องมือที่สามารถตัดเสื้อผ้าออกได้ง่าย เค้าจะมองหาผู้หญิงที่กำลังใช้โทรศัพท์มือถือ หรือกำลังทำกิจกรรมอื่นๆขณะเดิน เพราะว่าผู้หญิงเหล่านั้นจะไม่ทันระวังตัวและพวกเค้าสามารถเข้าไปใช้กำลังได้ง่ายๆ เวลาที่เหมาะสมในการเข้าไปทำร้ายและข่มขืน คือ ในตอนช่วงเช้าประมาณตี 5 ถึง 8.30 น. ส่วนสถานที่ที่ผู้หญิงจะถูกทำร้ายได้ง่ายอันดับแรกคือ ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า อันดับสองคือลานจอดรถหรือโรงรถของบริษัท อันดับสาม คือ ห้องน้ำสาธารณะ สิ่งที่คนเหล่านี้จะทำคือ เข้าไปกระชากผู้หญิงคนนั้น และใช้กำลังดึงเธอไปยังอีกที่หนึ่งที่พวกเค้าจะ ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะถูกจับได้ ประมาณ 2 เปอร์เซนต์บอกว่าพวกเค้าใช้อาวุธด้วย เพราะการข่มขืนมีโทษจำคุก 3 - 5 ปี แต่การข่มขืนและมีอาวุธมีโทษจำคุก 15 - 20 ปี และถ้าผู้หญิงคนนั้นต่อสู้ เค้าก็จะเกิดการไม่พอใจ เพราะว่ามันจะต้องใช้เวลามากขึ้น และมันเป็นการเสียเวลา นักโทษคนหนึ่งกล่าวว่า เค้าจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่ถือร่ม หรือ สิ่งอะไรก็ตามที่สามารถต่อสู้ได้จากที่ห่างๆ กุญแจไม่เป็นอุปสรรคเพราะในการที่คุณจะใช้นั้น จะต้อง เข้าไปใกล้ๆ ดังนั้นการใช้กุญแจในการป้องกันตัว จึงเป็นเรื่องง่าย สำหรับคนเหล่านี้ มีการป้องกันตัวหลายแบบที่พวกเค้าแนะนำคือ ถ้ามีใครซักคนเดินตามหลังคุณบนถนนหรือที่โรงจอดรถ หรือในลิฟต์ให้มองหน้าเค้า และถามคำถามอะไรก็ได้ เช่น ตอนนี้กี่โมงแล้ว หรือสร้าง สนทนาสั้นๆ อะไรก็ได้ และตอนนั้นคุณจะสามารถเห็นสีหน้าพวกเค้าและสามารถ ที่จะเห็นปฏิกิริยาทั้งหมด และคุณก็จะรอดพ้นจากการเป็นเป้าหมาย ถ้ามีคนมาข้างหน้าคุณเอามือของคุณมาไว้ข้างหน้าและ ตะโกนอะไรก็ได้ คนเหล่านั้น จะปล่อยเป้าหมายไว้คนเดียวทันทีถ้าเหยื่อตะโกนหรือแสดงกิริยาว่าพวกเธอไม่กลัว ที่จะต่อสู้และพวกเขาก็จะมองหาเป้าหมายใหม่ที่ง่ายกว่าเดิม แต่ถ้าคุณมีสเปรย์พริกไทย ตะโกนออกไปว่า “ชั้นมีสเปรย์พริกไทย”และโชว์ให้มันดู ถ้ามีใครกระชากคุณ คุณจะไม่สามารถใช้กำลังในการต่อสู้ได้เลยแต่คุณ สามารถเอาชนะมันได้ด้วยปัญญา ถ้าเค้ากระชากข้อมือของคุณ กลับมือของคุณก็จะเปลี่ยนทิศทาง บิดข้อมือคุณคือและดึงแขนคุณออกไป มันยากที่จะจับข้อมือที่บิดอยู่ ให้ไปในทางนั้นและคนที่ปองร้ายคุณก็จะเสียหลัก และคุณก็จะเสียหลักถอยหลังออกมา และคุณก็สามารถใช้แรงผลักนั้น เขกมะเหงกไปที่หน้าผาก หรือจมูก หรือฟันของคนร้ายได้ แต่ถ้าคุณถูกกระชากข้อมือจากข้างหลัง ให้หยิกคนร้าย ตรงใต้แขนระหว่างรักแร้และข้อศอก หรือตรงบริเวณเนื้อส่วนใน มีผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวว่า เธอได้ลองใช้วิธีนี้กับผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการจะข่มขืนเธอ เธอหยิกจนเนื้อฉีกและจนถึงบริเวณกล้ามเนื้อของชายคนนั้น และชายคนนั้นเลยต้องไปหาหมอเย็บแผล หลังจากการหยิกหรือตีแล้ว เป้าหมายต่อไปคือ ต้นขา (ไข่) มันเป็นสิ่งที่แน่นอนว่า ถ้าคุณไปตบบริเวณนั้นของผู้ชาย จะสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก คุณอาจจะติดว่าถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณจะทำให้เค้าโกรธขึ้นมาและทำร้ายคุณมากกว่าเดิม แต่นักโทษให้สัมภาษณ์ว่าพวกเค้าต้องการผู้หญิงที่ไม่ก่อปัญหามากมายเริ่มสร้างปัญหาซะ และพวกเค้าก็จะไปจากคุณ แต่ถ้าเมื่อชายคนนั้นวางมือบนคุณ ให้กระชากนิ้วเค้า 2 นิ้ว และหักไปในทางตรงข้ามให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และมันจะสร้าง ความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ผู้สอนได้ลองทำกับชั้นโดยไม่ได้ทำให้ เจ็บมากและชั้นก็ถึงกับเข่าอ่อนและทุบบอกให้หยุด แต่สิ่งเหล่านี้ต้องมีการนำไปใช้อย่างเหมาะสม ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้วย พาใครซักคนไปกับคนถ้าเป็นไปได้ ถ้าเห็นใครบางคนมีพฤติกรรมแปลก ๆ ให้ระวังตัว มีสติให้มั่น คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณเหมือนคนโง่ในช่วงนั้นแต่คุณจะยิ่ง แย่กว่านั้นถ้าชายคนนั้นเป็นปัญหาจริง ๆ กรุณาส่งข้อความนี้ไปให้ผู้หญิงทุกคนที่คุณรู้จัก มันจะได้เป็นการช่วยเหลือเธอได้ |
ที่มาhttp://webboard.niyay.com/detail/3312.html
ก้องกิดากร
9/6/56
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !