บล็อกคนใจหมา เรื่องหมาๆ กับเพื่อนบ้าน เขาบอกว่าการเลือกซื้อบ้าน ทาว์เฮาท์ จะต้องดูถนนหน้าบ้านต้อง กว้างขวาง กลับรถสะดวก จอดรถได้สะบาย แล้วจะไม่มีปัญหากับคน ข้างบ้าน นั่นเป็นสิ่งที่ผมยึดมั่นและเชื่อฟังคำพูดนี้มาตลอด น่าลำบากสำหรับการเลือกซื้อทาว์เฮาท์ ที่ติดกันเป็นพรวนไม่ต่างอะไรกับห้องแถว รูปลักษณ์ดูสวยงาม แต่ลองวิ่งขึ้นลงบรรไดสิ สะเทือนไป 3 บ้าน 8 บ้าน อีกอย่างหากคุณเลือกซื้อบ้านลักษณะนี้ สิ่งต่อไปที่คุณจะต้องมีคือสังคมใหม่ ผมไม่ชอบเล่นการพนันน๊ะครับ แต่ผมต่อให้เลย 100 บาท ผมเิอาบาทเดียว ไม่ช้าไม่นานคุณจะต้องมีปัญหาอะไรสังอย่างมากวนใจคุณแน่นอน! บังเอิญบ้านเทาว์เฮาท์ ที่ผมมาซื้ออยุ่ ตรงกันข้ามเป็นญาติพี่น้องกันเอง ทำให้การเริ่มหรือก่อตั้งสังคมใหม่เป็นไปอย่างง่ายดาย ที่ติดกันกับบ้านของผม เป็นข้าราชการ เกษียนอายุ อาศัยอยู่กับ ภรรยา ไม่มีลูก มีหลาน มีเพียงสุนัขโกลเด้น อาศัยอยู่ด้วยให้แกคลายเหงา บ้านของคุณลุงกับบ้านผม เราถือเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน เนื่องจากพ่อของผมก็เกษียนอายุมาซื้อบ้านอยู่เหมือนกัน และที่สำคัญเราเลี้ยงสุนัขเหมือนกันพันธุ์เดียวกัน สุนัขของผมถูกฝึกการรับฟังคำสั่งมาเป็นอย่างดีโดยทหารที่มีทักษะในการฝึก ผมจึงปล่อยมันเข้านอกออกในบ้านโดยไม่จำเป็นต้องกักขัง ส่วนบ้านของคุณลุงข้างๆแกดีใจที่มีเพื่อนบ้านที่รักสัตว์เหมือนกันมาอยู่ใกล้ๆกัน จะได้ไม่มีปัญหาหรือการรังเกียจเหยียดชนชั้นมนุษย์ ชนชั้นสัตว์ แต่แล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้น เกิดจากความชล่าใจ ความไม่เกรงใจกัน ความไม่เคารพซึ่งกันและกัน เพียงเพราะคำว่าสนิทสนมกันแล้ว พฤติกรรมของลุงเปลี่ยนไป จากที่เคยใช้สายคล้องจูงสุนัขของแก ออกไปปดปล่อยระบายของเสียที่สุนัขของแกกินเข้าไป เรียกง่ายๆว่าจูงหมาไปขี้ไปเยี่ยวนั่นแหละ แกเริ่มไม่ทำ ปล่อยให้สุนัขเที่ยววิ่งไปขับถ่ายบ้านอื่น เมื่อเวลาเพื่อนบ้านมาร้องเรียนแก แกใช้คำง่ายๆ ห้วนๆ ตอบกับเพื่อนบ้านไปอย่างไม่อายปากตัวเอง แกบอกว่า"หมามันมีตั้งหลายตัว แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเป็นหมาของฉัน'' อืมๆ ตอบได้ใจจริงๆลุง เพื่อนบ้านชักเริ่มเอือมละอาพฤติกรรมคำพูดของแก แกคงมองว่าตัวเองเป็นข้าราชการมาก่อน แกมักตอบอะไรแบบฉลาดๆ พ้นตัวแกตลอด และด้วยตำแหน่งและศักดิ์ศรีของแกเป็นคณะกรรมการหมู่บ้านอยู่ด้วยในตอนนั้น แต่ก็อย่างว่าเรื่องของใครเรื่องของมันผมไม่ได้อยากไปยุ่ง เหตุการณ์ก็ยังเป็นในลักษณะเดิมๆ สุดท้ายมีการคัดเลือกแกออกจาก คณะกรรมการหมู่บ้าน เสียงตำหนิติฉินนินทาแกเริ่มหนาหู คงไม่ใช่แค่เรื่องขี้หมาของแกเป็นแน่ แกเริ่มเป็นคนเก็บตัว คำพูดคำจาโอ้อวดยกตนข่มท่าน เริ่มจางๆลง แกชวบมาเล่าให้ผมฟังอยู่เรื่อยๆ แกบอกชาวบ้านพวกนี้ไม่รู้อะไร ไม่รู้จักการบริหารจัดการ ลุงทำงานเพื่อหมู่บ้านไม่ได้เงินอะไรเลยซักแดงเดียว ...ผมก็เออออห่อหมกไปตามแก ถึงคราวเราบ้าง........ สุนัขของแกก็ยังป้วนเปี้ยนเดินเข้าออกบ้านผมเป็นปรกติ บางครั้งคาบรองเท้าที่บ้านผมกับบ้านมัน แล้วมันก็ไม่ยอมปล่อยออกจากปากของมันสะด้วย วันดีคืนดีมายุ่งกับชามข้าว ไอ้ทาโร่หมาของผม เป็นอันกัดกันเลือดสาดทุกที ผมเริ่มรำคาญ สุนัขของแกมากขึ้นทุกวัน แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนบ้านสัมพันธไมยตรีต้องมาก่อนเรื่อง หมาๆๆ แมว สุดท้ายเหตุการณ์ที่เป็นจุดคลายแม็กซ์ และสิ้นสุดสัมพันธภาพที่ดีงามของบ้านผมกับเขาต้องจบลง จบลงด้วยการสูญเสีย แม่แมวเปอร์เซียที่ผมเลี้ยงไว้ ออกลูกมา4 ตัว แม่ของมันหวงลูกของมันมาก เวลาหมาของลุงเข้ามาในบ้านทีไร แม่แมวจะรีบเข้าไปขู่ใช้กงเล็บตวัดตบหวังจะให้ไอ้หมาตัวนั้นออกไปจากอนาเขต ผมเริ่มเห็นความไม่ปลอดภัยของลูกแมวผมๆจึงสั่งทุกคนเวลาออกจากบ้าน ให้ปิดประตูบ้านเสมอเพื่อไม่ให้มันเข้ามาในบ้าน จะได้แก้ปัญหาเรื่องรองเท้าหายด้วยไปในตัว หรือมากัดกับเจ้าทาโร่หมาของผมอีก แต่อาจเป็นความประหมาดของผม คืนนั้นผมนำลูกแมว 2 ตัวออกมาอุ้มเล่นและทำความสะอาดให้มัน เหมือนเดิมมาของลุงแกมาเยี่ยมบ้านผมอีกแล้ว มันก็เข้ามาดมๆ คาบรองเท้าของผมไปเหมือนเดิม วันนี้มันไม่คาบรองเท้าอย่างเดียว ในระหว่างที่ผมเผลอมันคาบคอลูกแมวของผมไปต่อหน้าต่อตา เสียงลูกแมวร้องด้วยความเจ็บปวด
ผม ''ลุงๆ หมาลุงคาบแมวผมไปแล้ว''
ลุง "จูดี้ปล่อยลูกไม่เอาลูก''
ผม ''ลุงหาทางเอามันออกมาให้ได้ ช้ากว่านี้ตายแน่''
ลุง ''มันไม่ปล่อย จะให้ผมทำอย่างไร หมามันฟันคมจะตายงับแล้วปล่อยยาก''
เจ็บปวดกับคำพูดลุงจริงๆ เอาอีกแล้วสัญชาตยานเดิมออกอีกแล้ว พูดง่ายๆกระชับๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเอาล่ะวันนี้เป็นไงเป็นกัน ขาดสบันมันไปเลย ไม่ต้องไปมีมิตรไมตรีกับมันอีกต่อไป สุดท้ายลูกแมวก็ขาดใจตายในที่สุด น้ำตาผมถึงกับไหลเสียงร้องโหยหวนของลูกแมวมันบาดใจผมจริงๆ
พ่อผม ''คุณๆ หมาของคุณที่คุณเลี้ยงไว้ ตกลงมันเป็นลูกคุณหรือเป็นหมาของคุณ กูเห็นแม่งเรียกหมาว่าลูกๆอยู่นั่นแหละ ตกลงมึงจะเอา ศพแมวออกจากปากมันได้หรือยังฮ่ะ'' พ่อผมแกเป็นคนรักแมวแกเริ่มมีน้ำโหอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ลุง ''เดี๋ยวผู้พัน มันยังไม่ยอมปล่อย ถ้าปล่อยแล้วผมจะเอาไปคืนให้''
พ่อผม ''มึงไม่ต้องเอามาคืนล่ะไอ้ห่า มึงเลี้ยงหมาแต่แพ้หมา แค่นี้มึงบังคับเอาออกจากปากมันไม่ได้มึงไม่ควรเลี้ยงมัน'''
ลุง ''โถ่ผู้พันธ์ มันเป็นอุบัติเหตุ ใครก็ไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมาหรอก''
พ่อผม ''กูทนมานานล่ะ หมามึงวิ่งเข้านอกออกในบ้านกู กูก็ไม่เคยไล่แล้วมึงล่ะเคยมาไล่หมามึงบ้างไหมมึงก็ไม่เคย แล้วมึงไม่คิดว่าถ้ามึงเอาแมวออกจากปากมันได้ แล้วพาแมวไปหาหมอเผื่อรอดมึงคิดบ้างไหม''''
นั่นคือบทสรุปความบาดหมางที่ เกิดจากความประมาทของคน การไม่รู้จักเกรง อกเกรงใจของคน และสุดท้ายความใจหมาของคนก็มาเยือน เรื่องนี้หมาไม่ผิดเชื่อผม ผิดที่คนล้วนๆ การเอาใจใส่เพื่อนบ้าน หรือเอาใจเขามาใส่ใจเราเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงเมื่ออยู่ร่วมสังคมกับผู้อื่นผมว่าน๊ะ ...
โปรดลองวิเคราะห์เรื่องราวในแบบของคุณ
เพราะที่นี่บล้อก เขาใจหมาหรือว่าผมใจมด
ก้องกิดากร
|
Home »
บทความผู้เขียน
» หมา-เพื่อนบ้าน
หมา-เพื่อนบ้าน
Written By Unknown on 15/6/56 | 12:59
ป้ายกำกับ:
บทความผู้เขียน
ต่างคนต่างผิดค่ะ..... ถ้าหมาเข้ามาในบ้านของคุณแล้วทำไมไม่ไล่มันไปตั้งแต่แรก ทั้งๆคุณก็รู้ว่าหมาไม่ถูกกับแมว.. แล้วคุณลุงข้างบ้านก็ผิดที่ไม่พยายามช่วยลูกแมวของคุณได้ทั้ง ๆ ที่เป็นเจ้าของหมา เพราะหมาถ้าเลี้ยงมาดี..เจ้าของพูดอะไรหรือเอ็ดมัน มันก็ต้องกลัวบ้างหรือเข้าไปจับมัน ให้มันคายแมวที่คาบออก... สรุป ถ้าคุณลุงดูแลหมาของตัวเองไม่ให้ไปยุ่งกับบ้านคนอื่นก็ไม่ต้องสูญเสียลูกแมวไปหรอกค่ะ
ตอบลบนั่น แหลาะคือความคิดในแบบของคุณ! ขอให้จรรโลงกับเรื่องราวครับ วิเคราะห์เยอะๆจะดี เหมือนมีภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจครับ
ลบadmin