เจ็บใจแท็กซี่ คนดีแต่ขี้โกหก
โอ้ย! อ่านชื่อเรื่องก็ งง แล้วครับ ผมเองก็ยังง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองเลย ไม่รู้ว่าใครใจหมาใครใจมด หาข้อสรุปไม่ได้อีกแล้ว เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งที่ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับพ่อแม่ทะเลอะกันอย่างสร้างสรรค์ เรื่องนี้คือภาคต่อของเหตุการณ์ครับ ย้อนความเดิมก็คือผมกับภรรยาทะเลอะกันอย่างรุนแรง จนภรรยาต้องหอบหิ้วลูกน้อยตัวเล็กๆ หนีจาก อกพ่อไป แท็กซี่ตัวการเป็นพาหนะพาลูกพาเมียผมหนีไป !
ตอนนั้นก็เวลา ห้าทุ่มเศษๆ แล้วภรรยาผมยืนยัน ที่จะเอาลูกไปให้ห่างไกลจากผมซักพัก ในขณะนั้นผมยืนตกลงกับเธออยู่ริมถนน พร้อมกับลูกน้อยในสภาพร่อนจ้อน ไม่มีผ้าขนหนูทำให้อุ่น ไม่มีนมเบาเทาอาการหิว แต่เจ้าลูกน้อยก็ยังทำตาแป๋วมองผมอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทันใดนั้นเองมีเท็กซี่ คันสีฟ้าวิ่งผ่านเธอรีบเปิดประตูขึ้นรถ เพื่อพยายามหนีผมไปให้ได้ในคืนนั้น ผมตกใจมากๆในการตัดสินใจของเธอ ความคิดที่ผุดขึ้นมาในสมอง เรื่องที่ใหญ่และต้องสกัดกั้นให้เร็วที่สุดคือ การหยุดรถแท็กซี่ ไม่ให้ล้อทั้งสี่เคลื่อนตัวออกไปไหน ผมทำได้เพียงเคาะกระจกรถให้คนขัดแท็กซี่คันนั้นเปิดกระจก เพื่อผมจะอธิบายให้คนขับเข้าใจ แต่เขาไม่มีทีท่าที่จะเปิด จนวินมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างหน้าปากซอยต้องเข้ามาช่วยผมเจรจา เพราะมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างเห็นเหตุการณ์ เรื่องราวของผมกับภรรยาทั้งหมด แท็กซี่ทำท่าทางไม่สนใจผมและหันไปมองหน้าภรรยาของผม และเริ่มที่จะเคลื่อนล้อทั้งสี่ ผมโมโหจนสุดขีด ใช้ฝ่ามือตบกระจกรถและต่อว่าคนขับแท็กซี่อย่างรุนแรง พร้อมบอกเขาว่าถ้าเคลื่อนรถออกไปผมจะแจ้งความ ทั้งขู่ทั้งขอความเห็นใจจากเขา ผมพยายามบอกให้เขาไปส่งภรรยาผมที่บ้านก่อน ให้เด็กได้ใส่เสื้อผ้า และมีขวดนมติดไปด้วยยามหิวระหว่างทาง แท็กซี่เห็นผมขวางทางไม่ยอมให้ไป เขาทำสัญญลักษณ์มือบอกผมว่า เขาจะเอาเด็กกับผู้หญิงไปส่งสถานนีตำรวจใกล้บ้าน เท่านั้นแหละครับอาการกังวลของผมค่อยๆหายไป นึกใจใจอย่างมากก็ให้ภรรยากับลูกไม่ต้องเร่รอนไปไหนตอนดึกๆดื่นๆ ส่วนเรื่องที่เหลือที่สถานนีตำรวจ ตำรวจเขาจะเอาต่อก็แล้วแต่เขาจะจัดการ ผมค่อยๆขี่มอร์ไซด์ ตามหลังแท็กซี่ไปที่สถานนีตำรวจ พอถึงผมเดินขึ้นไปโรงพักอย่างผ่อนคลายลงแต่ต้องตกใจขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อตำรวจแจ้งว่า ไม่มีรถแท็กซี่คันไหนมาส่งใครเลย ผมเลยเล่าเรื่องราวให้หมดให้คุณตำรวจฟัง ขนาดตำรวจยังไม่สามารถคัดสินเรื่องราวได้เขาเลยให้บันทึกประจำวันไว้ แต่สุดท้ายภรรยาและลูกของผมปลอดภัยดี
-->
ถ้าคุณเป็นคนขับแท็กซี่ คุณจะเลือกทำแบบไหน
1.ส่งสถานนีตำรวจ ให้สามีภรรยาตกลงกันที่โรงพัก ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวหรือพาไปส่งที่อื่น
2. พาไปส่งตามที่ผู้โดยสารร้องขอ โดยไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องที่เกิดขึ้น
สุดท้ายยังโชคดี ที่เจอคนดี แต่ขี้โกหก
เตือนภัยสาวนั่งแท็กซี่คนเดียวตอนดึก เจอแท็กซี่พูดจาลามกใส่
เกริ่นไว้ก่อนเลยคือเราเป็นทอม ปกติเราจะไม่ค่อยออกไปไหนคนเดียวค่ำๆ จะอยู่หอซะเป็นส่วนมาก
พอดีวันนี้แฟนเราไม่สบาย เราก็เลยออกจากหอขึ้นรถ เพื่อมาหาแฟน เพราะแฟนอยู่คนเดียว ไม่มีคนดูแล
โดยที่วินแท็กซี่ที่เราขึ้น เป็นวินที่ขึ้นตรงกับมหาลัย รถทุกคันและคนขับจะต้องลงทะเบียนไว้กับมหาลัย
ซึ่งปรกติเราขึ้นก็ไม่เคยมีปัญหา เราก็เลยไม่ได้คิดอะไร ก็ขึ้นรถ บอกจุดหมายปลายทาง
ระหว่างทาง คนขับก็ชวนเราคุย นู้นนี่นั่น เราก็คุยตามปรกติ พูดจาสุภาพ
จนไปๆมาๆคนขับเริ่มถามถึงเรื่องเที่ยวกลางคืน กินเหล้า บทสนทนาจะประมาณนี้
คนขับ : น้องเคยเมามั้ย ชอบกินเบียร์หรือกินเหล้า
เรา : ก็มีบ้างค่ะ ปกติกินเหล้ามากกว่า
คนขับ : ปกติเที่ยวที่ไหน
เรา : ไม่ค่อยได้ไปเที่ยว เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยกินแล้ว
คนขับ : เนี่ย ไปกินเบียร์กับพี่มั้ย ไม่ต้องถึงกับเหล้าหรอก เอาซักขวดสองขวด เนี่ยยังไม่ดึกหรอก
ไม่ต้องรีบเข้าบ้านก็ได้ (ประมาณสามทุ่ม) พี่อยากมีแฟนเป็นนักศึกษามานานแล้ว อยากไปกินเบียร์กับนักศึกษา
ฯลฯ
พอดีวันนี้แฟนเราไม่สบาย เราก็เลยออกจากหอขึ้นรถ เพื่อมาหาแฟน เพราะแฟนอยู่คนเดียว ไม่มีคนดูแล
โดยที่วินแท็กซี่ที่เราขึ้น เป็นวินที่ขึ้นตรงกับมหาลัย รถทุกคันและคนขับจะต้องลงทะเบียนไว้กับมหาลัย
ซึ่งปรกติเราขึ้นก็ไม่เคยมีปัญหา เราก็เลยไม่ได้คิดอะไร ก็ขึ้นรถ บอกจุดหมายปลายทาง
ระหว่างทาง คนขับก็ชวนเราคุย นู้นนี่นั่น เราก็คุยตามปรกติ พูดจาสุภาพ
จนไปๆมาๆคนขับเริ่มถามถึงเรื่องเที่ยวกลางคืน กินเหล้า บทสนทนาจะประมาณนี้
คนขับ : น้องเคยเมามั้ย ชอบกินเบียร์หรือกินเหล้า
เรา : ก็มีบ้างค่ะ ปกติกินเหล้ามากกว่า
คนขับ : ปกติเที่ยวที่ไหน
เรา : ไม่ค่อยได้ไปเที่ยว เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยกินแล้ว
คนขับ : เนี่ย ไปกินเบียร์กับพี่มั้ย ไม่ต้องถึงกับเหล้าหรอก เอาซักขวดสองขวด เนี่ยยังไม่ดึกหรอก
ไม่ต้องรีบเข้าบ้านก็ได้ (ประมาณสามทุ่ม) พี่อยากมีแฟนเป็นนักศึกษามานานแล้ว อยากไปกินเบียร์กับนักศึกษา
ฯลฯ
ตอนนั้นเราเริ่มเอะใจแล้วนะ แต่ว่ารถมันวิ่งอยู่เส้นนอก ไม่สามารถจะจอดได้เลย เราเลยยิ้มๆพูดปัดๆไปตามเรื่อง
โดยที่เค้าไม่ได้ขับออกนอกเส้นทาง แต่พยายามพูดโน้มาน้่วเราไปเรื่อยๆ เราก็เบี่ยงประเด็นไปเรื่อยๆ แล้วเค้าก็ยังไม่หยุด
ยังพูดต่อ บอกว่าชอบเรา จะชวนเราไปนั่งกินเบียร์ นั่งในมุมมืดๆ บลาๆ บอกว่าเนี่ย
เราน่ารักนะ หมวยๆ ตาตี่ๆ พี่ชอบ เป็นแฟนกับพี่มั้ย แล้วก็พูดมาประมาณนี้
คนขับ : น้องมีแฟนยัง คุยกับแฟน ไปไหนกับแฟนบ้างมั้ย
เรา : ก็มีบ้่าง
คนขับ : แล้วกุ๊กกิ๊กกับแฟนบ้างมั้ย
เรา : ไม่มี
คนขับ : ทำไมไม่มีล่ะ ไม่อยากหรอ ให้เลือดลมมันเดิน เนี่ย พี่อยาก น้องใส่ชุดอะไร
ชุดนักศึกษารึเปล่า พี่อยากใช้ลิ้นกับตรงนั้น...
จริงๆมีอีกเยอะ แต่นั่นเป็นประโยคสุดท้่ายที่เค้าพูดกับเรา เพราะเราทำเป็นแกล้งค้นของในกระเป๋า
ถามหาเซเว่นแล้วให้เค้าจอดหน้าเซียร์รังสิต ทีแรกคนขับนึกยักจะไม่จอด บอกว่าเนี่ยไม่มีเซเว่น เซเว่นต้องเลยไปอีกไกล
เราหันไปเจอตลาดนัดพอดี เราก็เลยบอกว่า ไม่เป็นไรซื้อที่ตลาดนัดก็ได้ วัตสันก็มี คนขับก็เลยยอมจอด เรารีบจ่่ยเงินแล้วรีบลง
ก็เห็นคนขับยังจอดรอดูเราอีกพักนึง เราเลยวิ่งขึ้นรถเมล์ ต่อรถมาจนถึงหอแฟน
อยากจะบอกว่าการแต่งตัวเรานี่ไม่ได้มีความเซ็กซี่หรือน่างาบแต่อย่างใด เพราะเราไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษา
แต่ใส่เป็นเสื้อโปโล กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าหนัง ใส่แว่นแถมสะพานกระเป๋าเป้อีกต่างหาก
ผมก็ตัดสั้น พอมัดได้
ตอนที่อยู่บนรถไม่ว่าคนขับจะพูดอะไรมาเราก็ตอบปัดๆตามน้ำไปเรื่อย ไม่ได้พูดจาไม่ดี
เรายังโชคดีที่สุดท้่ายคนขับยังยอมจอดรถให้ ไม่งั้นไม่ว่าจะคิดทางไหนคงมีแต่เจ็บตัวเท่านั้น
เดี๋ยวนี้อันตรายมันมาหาเราได้ทุกรูปแบบจริงๆ แนะนำว่าถ้าต้องเดินทางตอนกลางคืนหาเพื่อนไปด้วย
หรือไม่ก็อย่าลืมโทรบอกเลขทะเบียนรถ เวลาที่จะถึงคร่าวๆไว้ให้เพื่อนทราบก่อนนะคะ
ป้องกันแท็กซี่พาเราออกนอกเส้นทาง หรือพาเราไปที่อื่นๆ
***********************************
และที่สำคัญ ถ้ามีปัญหาขอให้ใช้สตินะคะ
จะเห็นว่าเราไม่พูดจาไม่ดีซักคำ เพราะเกิดด่าไปแล้วคนขับโกรธ ไม่จอดให้เราลงนี่เราเดือดร้อนแน่ๆค่ะ
ยังไงหาวิธีเนียนๆเอาตัวรอดก็ดีกว่าสู้ เพราะนอกจากจะเจ็บตัวแล้ว ยังอาจจะต้องเจ็บใจกับประสบการณ์แย่ๆ
ไปอีกทั้งชีวิตเลย
Ps.เราไม่ได้จดเลขทะเบียนไว้ด้วยค่ะ พลาดมากเลย แต่ตอนนั้นก็ไม่กล้าจะหยิบมือถือขึ้นมา
กลัวจะไปล่อตาล่อใจเค้ามากขึ้น จำได้แต่เป็นแท็กซี่สีชมพู เดี๋ยวพรุ่งนี้กะว่าจะลองหาดู
ว่าจะสามารถร้องเรียนทางไหนได้บ้าง จะได้ไม่ต้องมีนักศึกษาหญิงมาเจอแบบเราอีก
และที่สำคัญ ถ้ามีปัญหาขอให้ใช้สตินะคะ
จะเห็นว่าเราไม่พูดจาไม่ดีซักคำ เพราะเกิดด่าไปแล้วคนขับโกรธ ไม่จอดให้เราลงนี่เราเดือดร้อนแน่ๆค่ะ
ยังไงหาวิธีเนียนๆเอาตัวรอดก็ดีกว่าสู้ เพราะนอกจากจะเจ็บตัวแล้ว ยังอาจจะต้องเจ็บใจกับประสบการณ์แย่ๆ
ไปอีกทั้งชีวิตเลย
Ps.เราไม่ได้จดเลขทะเบียนไว้ด้วยค่ะ พลาดมากเลย แต่ตอนนั้นก็ไม่กล้าจะหยิบมือถือขึ้นมา
กลัวจะไปล่อตาล่อใจเค้ามากขึ้น จำได้แต่เป็นแท็กซี่สีชมพู เดี๋ยวพรุ่งนี้กะว่าจะลองหาดู
ว่าจะสามารถร้องเรียนทางไหนได้บ้าง จะได้ไม่ต้องมีนักศึกษาหญิงมาเจอแบบเราอีก
ขอบคุณกระทู้ที่มา http://pantip.com/topic/30591177
ที่มา:
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !